6 Views
Mulan (1998) มู่หลาน
7.6 IMDB Rating

Mulan (1998) มู่หลาน

(Mulan)
หมวดหมู่
ผู้กำกับ ,
นักเขียน Robert D. San Souci, Rita Hsiao, Chris Sanders
นักแสดง , ,
รางวัล Nominated for 1 Oscar. 17 wins & 21 nominations total
ณ หัวคนนึงที่กำแพงเมืองจีน ในขณะที่ทหารจีนกำลังเดินตรวจตราอยู่ เขาเจอชาวฮั่นกำลังปีนขึ้นมาบนกำแพงเมืองจีนและฉาง หยู แม่ทัพชาวฮั่นพร้อมด้วยนกอินทรีคู่ใจของเขา ชาวฮั่นเหล่านี้มีเป้าหมายจะมายึดครองเมืองจีน ทหารจีนจึงจุดคบไฟส่งสัญญาณเพื่อให้รับรู้ว่ามีการบุกรุกเกิดขึ้นแล้ว เมื่อข่าวนี้ไปถึงเมืองหลวง แม่ทัพจึงรีบนำข่าวนี้ไปทูลแด่ฮ่องเต้ ว่า พวกฮั่นขึ้นกำแพงเมืองจีนมาบุกเมืองเราแล้ว ฮ่องเต้รู้ดีว่าชาวฮั่นบุกมา จึงสั่งให้ออกโองการเกณฑ์ไพร่พลเพื่อเตรียมกองกำลังให้พร้อมที่จะต่อสู้กับชาวฮั่น

ณ บ้านตระกูลฮัว มู่หลาน กำลังเขียนบทกลอนสอนหญิงบนแขนของเธอเพื่อที่จะไม่ลืมตอนที่จะต้องแสดงฝีมือในการพบแม่สื่อ ส่วนพ่อของมู่หลานกำลังสวดมนต์ขอพรบรรพบุรุษในศาลบรรพชน เพื่อจะให้คุ้มครองมู่หลานในการพบแม่สื่อวันนี้ มู่หลานมาพบพ่อเพื่อนำยารักษาอาการป่วยมาให้พ่อกินก่อนที่จะเดินทางไปตัวเมือง ในตัวเมือง แม่ของมู่หลานกำลังรอมู่หลานเดินทางมาแต่งตัวเพื่อไปพบแม่สื่ออย่างกระวนกระวายใจ ส่วนยายระหว่างรอยายตัดสินใจซื้อจิ้งหรีดชื่อว่า คริกแนก ไว้เป็นจิ้งหรีดนำโชคประจำตัวมู่หลาน เมื่อมู่หลานมาถึง แม่ของมู่หลานรีบให้มู่หลานอาบน้ำแต่งตัวเพื่อให้ทันเวลาไปพบแม่สื่อ เมื่ออาบน้ำแต่งตัวเสร็จแล้ว ก็รีบไปต่อแถวตามพวกสาวๆคนอื่นไป แม่สื่อเรียกเธอให้ไปพบเพื่อทดสอบว่าเธอจะเป็นเจ้าสาวที่ดีที่สามารถเชิดชูเกียรติของวงศ์ตระกูลได้หรือไม่ แต่ก็เกิดเรื่องทำให้แม่สื่อไล่ตะเพิดมู่หลานออกมา เมื่อกลับถึงบ้าน มู่หลานท้อแท้ใจที่ไม่สามารถเชิดชูเกียรติของวงศ์ตระกูลได้ พ่อของเธอจึงเข้ามาปลอบว่า ปีนี้ดอกท้อบ้านเราบานสะพรั่งทั้งปี ดูนี่สิ ดอกท้อดอกนี้ยังไม่บานแต่พ่อมั่นใจว่ายามใดที่มันบาน นั่นจะเป็นดอกท้อที่งดงามกว่าดอกใดๆ เมื่อพูดจบก็ได้ยินเสียงกลองซึ่งเป็นสัญญาณว่ามีขุนนางมาจากราชสำนักนำจดหมายเรียกเกณฑ์ทหารไปรบมามอบให้กับคนในหมู่บ้าน

มู่หลานเป็นห่วงพ่อมาก เกรงว่าพ่อของเธอจะตายตอนอยู่ที่สนามรบ จึงไปขอร้องต่อ ฉิง ฟู ขุนนางที่นำจดหมายเรียกเกณฑ์ทหารมา ทั้งยังโดนพูดต่อว่าว่า เจ้าต้องเห็นแก่บุรุษซะบ้าง ตกดึก พ่อกับมู่หลานทะเลาะกันเรื่องการไปรบ มู่หลานรู้สึกเสียใจมาก เธอจึงออกมานั่งร้องไห้และคิดหาทางเพื่อจะไม่ให้พ่อของเธอต้องออกไปรบ สุดท้าย มู่หลานตัดสินใจขโมยจดหมายเรียกเกณฑ์ทหารและชุดเกราะของพ่อไปพร้อมด้วยคาน ม้าคู่ใจของมู่หลานและหนีออกจากบ้านไป ยายตกใจตื่นขึ้นมาไม่เห็นมู่หลาน จึงบอกพ่อกับแม่ว่า มู่หลานหนีไปแล้ว ทั้งคู่เสียใจและกังวลมากว่าจะเสียลูกสาวไป ส่วนยายต้องอ้อนวอนขอให้บรรพชนตระกูลฮัวช่วยปกป้องคุ้มครองมู่หลาน ในความมืดที่ศาลบรรพชน หัวหน้าวิญญาณบรรพชนปรากฏตัวและปลุกมูชู มังกรสีแดงขึ้นมา จากนั้น มูชูปลุกเหล่าวิญญาณบรรพชนทั้งหมด ทั้งหมดพูดคุยและถกเถียงกันเพื่อหาทางช่วยมู่หลาน หัวหน้าวิญญาณตัดสินใจจะส่งมังกรหินไปช่วย มูชูไปช่วยปลุกมังกรหินแต่มังกรไม่ตื่น จึงตีหัวไปอีกหลายครั้งเพื่อจะปลุกให้ตื่นแต่กลับกลายเป็นว่ารูปปั้นมังกรหินหักพังลงทั้งหมด มูชูจึงต้องหาทางช่วยมู่หลานเอง เขาได้พบกับคริกแนกที่แนะนำให้มูชูไปหามู่หลานเอง มูชูกับคริกแนกจึงพากันไปหามู่หลาน เมื่อเจอมู่หลาน และแนะนำตัวเสร็จ ทั้งหมดจึงพากันไปยังค่ายทหาร เมื่อเข้าไปในค่าย มู่หลานซึ่งปลอมตัวเป็นผู้ชายก็เป็นต้นเหตุจนเกิดความวุ่นวายไปทั่วค่าย หลังจากที่ชาง และแม่ทัพวางแผนการโจมตี และแม่ทัพซึ่งมีศักดิ์เป็นพ่อของนายกองชางออกเดินทางไปต่อสู้กับชาวฮั่น ชางเห็นคนทะเลาะกันจึงถามว่ามีอะไรผิดปกติ พวกทหารชี้มาที่มู่หลาน ชางจึงเดินเข้าไปหามู่หลาน ชางถามชื่อ มู่หลานตัดสินใจตอบไปว่าชื่อ "ผิง" จากนั้น นายกองชางเริ่มต้นการฝึกทหารด้วยวิธีการต่างๆ แม้ในตอนแรก มู่หลานจะยังทำไม่ได้ แต่สุดท้ายมู่หลานก็พิสูจน์ตัวเองว่าตนนั้นสามารถทำได้และได้รับการยอมรับจากเพื่อนทหารและนายกองชาง ในเวลาเดียวกันนั้น ฉางหยูกับลูกสมุนของเขาได้เตรียมกองกำลังเอาไว้และบุกเมืองต่างๆ ต่อไป

แม้ฉิง ฟูจะไม่เห็นด้วยในการส่งทหารที่นายกองชางฝึกไว้ไปสนามรบ แต่ด้วยแผนการของมูชูทำให้มู่หลานและเพื่อนทหารที่สนิทกันอย่าง หลิง เฉียน โป และ เหยา รวมถึงทหารคนอื่นๆก็ได้ออกเดินทางไปรบ จนกระทั่งได้พบกับหมู่บ้านที่เหลือเพียงเถ้าถ่าน ชางพบหมวกของพ่อตกอยู่ในสนามรบ ก่อนที่กองทหารทั้งหมดจะเดินทางต่อไป ในระหว่างทาง กองทหารจีนได้พบกับกองทัพชาวฮั่นจึงเกิดการต่อสู้กัน สุดท้าย มู่หลานคิดแผนกำจัดศัตรูได้ จึงทำตามแผนนั้น ทำให้กองทัพชาวฮั่นแตกพ่ายไป ฉาง หยูเห็นเช่นนั้นจึงโกรธมากและใช้ดาบฟันที่ตัวของมู่หลาน มู่หลานที่บาดเจ็บยังคงสติและหนีออกมาได้และไปช่วยชีวิตนายกองชางไว้ นายกองชางซาบซึ้งใจที่มู่หลานช่วยเอาไว้ ก่อนจะให้ตามหมอมารักษามู่หลาน ระหว่างที่รักษาตัว ชางพบความจริงว่ามู่หลานเป็นผู้หญิง ฉิง ฟู สั่งให้ชางทำตามกฎ นั่นคือ การฆ่าเธอเสีย แต่นายกองชางก็ตัดสินใจไม่ฆ่าเธอและทิ้งเธอไว้ที่นั่นตามลำพัง ส่วนกองทหารก็ออกเดินทางไปสู่เมืองหลวงต่อไป มู่หลานตัดสินใจจะกลับบ้านแต่เมื่อเห็นฉาง หยูและทหารที่เหลือรวมตัวพร้อมจะบุกไปเมืองหลวงเช่นกัน มู่หลานตัดสินใจเดินทางไปเมืองหลวงทันที

ในเมืองหลวง มีขบวนแห่เฉลิมฉลองที่จีนเอาชนะกองทัพฮั่นได้ มู่หลานเตือนนายกองชางว่าพวกกองทัพฮั่นจะบุกโจมตีวังหลวง ชางไม่สนใจและไม่เชื่อเธอ จนกระทั่งกองทัพฮั่นบุกยึดวังหลวงและจับตัวฮ่องเต้ไปเป็นตัวประกัน ทหารจีนพยายามจะบุกเข้าไปช่วยแต่ไม่ได้ผล มู่หลานวางแผนและไปชวนเพื่อนทหารมาช่วย หลิง เฉียนโป เหยาและนายกองชางจึงมาเข้ามาร่วมกับมู่หลานจนสามารถเข้าไปในวังและจัดการกับทหารชาวฮั่น รวมถึงช่วยฮ่องเต้ออกมาได้ มู่หลานต่อสู้กับฉาง หยูและชนะในที่สุด เมื่อเหตุการณ์วุ่นวายสิ้นสุดลง ฮ่องเต้มาพูดกับมู่หลานว่า ข้าได้ยินเรื่องของเจ้ามามาก ฮัว มู่หลาน เจ้าขโมยชุดเกราะของพ่อและหนีออกจากบ้าน แฝงตัวเป็นทหารหนุ่ม หลอกให้นายกองหลงเชื่อ ทำความเสื่อมเสียแก่กองทัพจีน ทำลายพระราชวังของข้าและเจ้าได้ช่วยชีวิตพวกเราทุกคน พูดจบฮ่องเต้คำนับมู่หลาน ทุกคนก็ทำเช่นเดียวกัน ฮ่องเต้ได้มอบดาบและลัญจกรให้แก่เธอ หลังจากนั้น มู่หลานเดินทางกลับบ้าน มาพบครอบครัวของเธอที่ได้เห็นว่าเธอยังไม่ตาย สักพักนายกองชางก็ตามมาเพื่อเอาหมวกของพ่อมู่หลานที่มู่หลานลืมไว้มาคืน มู่หลานเชิญให้นายกองชางอยู่กินข้าวเย็นกับครอบครัว ส่วนมูชูก็ได้รับการเลื่อนตำแหน่งเป็นเทพคุ้มครองตระกูลฮัวอีกตน ทั้งหมดอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข