2 Views
My Cousin Vinny (1992) วินนี่ ญาติพี่รวมมิตร
7.6 IMDB Rating

My Cousin Vinny (1992) วินนี่ ญาติพี่รวมมิตร

(My Cousin Vinny)
หมวดหมู่
ผู้กำกับ
นักเขียน Dale Launer
นักแสดง , ,
รางวัล Won 1 Oscar. 5 wins & 6 nominations total
หนังตลกแนวขึ้นโรงขึ้นศาลครับ เรื่องของ 2 หนุ่มบิลลี่ (Ralph Macchio) กับ สแตน (Mitchell Whitfield) ที่โดนจับด้วยข้อหาฆ่าคนตาย ทั้งๆ ที่พวกเขาไม่ได้ทำ งานนี้ก็ไม่รู้จะทำไงครับ เงินจ้างทนายก็ไม่มี เลยต้องตามญาติของพวกเขามา นั่นคือ วินนี่ (Joe Pesci) ทนายที่เพิ่งสอบเนติฯ ได้หลังจากสอบตกมา 6 ปี อืมม์ ….. แล้วจะรอดกันมั้ยล่ะครับงานนี้

หนังฮาเต็มที่ครับ ตอนแรกดูจะไม่มีอะไรนะ เหมือนหนังแนวสืบสวนตลกทั่วไป แต่พอวินนี่เริ่มสำแดงเดชในศาลเท่านั้นแหละครับ หนังก็เริ่มฮาขึ้นและลุ้นมากขึ้นด้วย เพราะเราต้องดูกันต่อไปว่า วินนี่จะซักค้านอะไรเพื่อช่วย 2 หนุ่ม แล้วที่พี่แกซักค้านแต่ละที ก็โดนศาลเล่นซะตั้งหลายรอบ เพราะแกซักไม่เหมือนชาวบ้านครับ เลยโดนข้อหาหมิ่นศาลอยู่เนืองๆ เอะอะก็โดนโยนเข้าคุก จน 2 หนุ่มก็ชักจะหมดหวังเหมือนกัน

แต่พอวินนี่เริ่มซักจริงๆ ขึ้นมา ในความเล่นๆ ของเขานี่แหละที่แฝงการมองมุมแบบแปลกๆ แบบนอกกรอบเอาไว้ กล่าวคือแม้เขาจะไม่ค่อยแม่นเรื่องตำราหรือมารยาท แต่ด้านการสังเกตนี่สุดยอดครับ คำถามล่อหลอกหรือคำถามค้นหาความจริงมันเนียนมากๆ ทีนี้ตอนหลังก็มาลุ้นกันเต็มที่ล่ะครับว่าสองหนุ่มจะรอดหรือไม่

และหนังไม่ได้มีแต่ความฮาเท่านั้นนะครับ หนังยังมีแง่มุมดีๆ ใครอยากเล่นเป็นทนายลองเอาไปดูสิครับ จะเห็นได้เลยว่า ลูกเล่นนายวินนี่เนี่ย แหกคอก แต่ว่าเหนือชั้นจริงๆ การช่างสังเกต การรู้จักถามหรือใช้คำพูดก็เป็นเทคนิคที่น่าสนใจเหมือนกัน

ความดีความชอบก็ต้องยกให้ Pesci นี่แหละครับ ร่างเตี้ยๆ กวนโอ๊ยตลอด พูดจาไม่ค่อยเข้าหูคน แต่พอดูๆ ไปเราก็เชื่อโดยสนิทใจเลยครับว่าหมอนี่มีดีอยู่ แล้วเราก็เอาใจช่วยเขาโดยไม่รู้ตัว ซึ่งเรื่องนี้ก็ทำให้เขามีชื่อยิ่งขึ้นด้วย เพราะตอนถ่ายทำหนังเรื่องนี้ เขาก็เพิ่งได้ออสการ์จากหนัง Goodfellas มาหมาดๆ เป็นอีกหนึ่งดาราเก่งแบบกวนๆ จริงๆ ครับ ผมว่าเขาเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า Robert De Niro แล้วก็ Danny DeVito อีกนะครับ (สองคนนี้โดนเล็งไว้ว่าจะมาเล่นในตอนแรกครับ)
หนังมีการแสดงดี ตลกพอเหมาะ และมีสาระ เอาแค่ที่วินนี่เถียงกับโมนา ลิซ่า วีโต้ (Marisa Tomei-ซึ่งได้ออสการ์ไปจากบทนี้) คู่หมั้นของเขาเอง ในศาลนั่น ก็มันส์สุดๆ แล้วครับ ฮาเต็มๆ แต่ซักพักมันดันเกี่ยวกับคดีได้ยังไงก็ไม่รู้ เออ มันลื่นไปของมันได้จริงๆ ครับ ซึ่งการที่ Tomei ได้ออสการ์มาจากบทนี้ก็มีการวิพากษ์วิจารณ์ครับ ว่าแม้เธอจะเล่นได้ดี แต่ก็ไม่ได้ดีขนาดจะได้รางวัล แค่เข้าชิงก็ถือว่าพอแล้ว ก็เลยมีข่าวลือออกมาครับว่าจริงๆ แล้วการที่เธอได้ออสการ์ก็เพราะ ซองประกาศรางวัลของจริงดันหายไปครับ เลยมีการตัดสินกันเองหลังเวที แล้วเธอก็เลยได้รางวัลไป ก็แล้วแต่จะว่ากันไปนะครับ แต่ผมว่าเธอก็เล่นได้ดีครับ แต่อาจจะจริงอย่างเขาว่าที่ไม่ได้เด็ดขนาดระดับออสการ์แบบนั้น แต่ก็เอาเถอะครับ

นี่ก็ถือเป็นหนังดีอีกเรื่องของผู้กำกับ Jonathan Lynn ซึ่งหนังของเขามักมีเอกลักษณ์อยู่ตรงที่ว่า เรื่องราวมักจะมีการขมวดปมแบบชวนให้ลุ้นในตอนท้ายครับ มีการแก้เกมของพระเอกแบบคาดไม่ถึงในตอนจบ (ซึ่งเป็นแบบนี้ทุกเรื่องครับไม่ว่าจะ The Distinguished Gentleman, Sgt.Bilko หรือ The Whole Nine Yards)

ส่วนดาราเจ้าอื่นก็มีฝีมือระดับทั้งนั้นล่ะครับ Fred Gwynne กับบทผู้พิพากษาแชมเบอร์เลน เฮลเลอร์ ก็ยังคงดูนิ่งและมีเกียรติตามเคย และนี่ก็เป็นงานแสดงชิ้นสุดท้ายของเขาครับ ก่อนจะเสียชีวิตในปีถัดมา, Lane Smith กับบทอัยการจิม ทรอทเตอร์ ที่คอยแก้ต่างกับวินนี่ตลอดทั้งเรื่อง ซึ่งรายนี้ก็เล่นบททำนองกึ่งโกงกึ่งผู้ดีได้ดีครับ แต่ในเรื่องเขาก็ไมได้โกงหรอกนะครับ แค่อยู่ฝั่งตรงข้ามพระเอกน่ะ

ฮาสนุก ไม่ควรพลาดครับ คลายเคลียดดี และยังใช้สมองด้วย ลองดูหนังไปแล้วก็นึกคำซักค้านไปด้วยสิครับ ผมว่าฝึกสมองได้ไม่เลวเลยนะครับ