Raat Akeli Hai (2020) ฆาตกรรมในคืนเปลี่ยว
7.2 IMDB Rating

Raat Akeli Hai (2020) ฆาตกรรมในคืนเปลี่ยว

(Raat Akeli Hai)
หมวดหมู่
ผู้กำกับ
นักเขียน Smita Singh
รางวัล 4 wins & 15 nominations
ฆาตกรรมในคืนเปลี่ยว (Raat Akeli Hai) หนังอินเดีย Original Netflix แนวสืบสวนฆาตกรรมที่ไม่ได้เป็นแนวบู๊ดุเดือด แต่มาในแบบนักสืบของฝรั่งที่มุ่งปะติดปะต่อเรื่องราวหาแรงจูงใจ และก็มีกลิ่นอายความเหมือน Knives Out หนังสืบสวนเรื่องดังของปีที่แล้ว ที่มาในรูปของคดีฆาตกรรมมรดกเลือด อันเป็นพล็อตต้นตอของนักสืบแนวนี้ที่ใช้กันประจำ ซึ่ง Raat Akeli Hai ก็มีเมนเรื่องหลักเป็นมรดกเลือดเช่นกัน แต่ได้ตำรวจนอกคอกมาสืบคดีนี้แทน

เรื่องเปิดมาเป็นปริศนาตามชื่อเรื่องไทย ฆาตกรรมในคืนเปลี่ยว เป็นเหตุการณ์คดีฆาตกรรมที่อำพรางว่าชนแล้วหนีที่ตามจับฆาตกรไม่ได้ แล้วเรื่องก็ตัดผ่านมา 5 ปี เมื่อสารวัตร “ชาฏิล ยาดาฟ” เข้าทำการสืบสวนคดีฆาตกรรมมหาเศรษฐีที่ตายปริศนาในห้องนอนตัวเอง โดยทุกคนในครอบครัวต่างไม่มีใครรู้เห็นเหตุการณ์สักคน แต่ทุกคนสงสัยนายหญิงคนใหม่ของบ้านที่เป็นอดีตเมียน้อย และได้รับมรดกทั้งหมดจากการตายในครั้งนี้ แต่สารวัตรชาฏิลกลับตกหลุมรักเธอตั้งแต่แรกพบ และไม่เชื่อว่าเธอคือฆาตกร

จุดเด่นของเรื่องคือการได้ดารายอดฝีมืออย่าง นาวาซัดดิน ซิดดิกรี มารับบทพระเอกในครั้งนี้ ซึ่งก่อนนี้เขาเล่นซีรีส์ Netflix เรื่องดัง Sacred Gamesในบท “คเนศ ไกทอนเด” ตัวร้ายตัวเอ้ของเรื่องที่เป็นพระเอกไปพร้อมกัน หน้าตาอาจจะไม่ได้หล่อเหลา แถมผิวเข้มจนเรียกว่าดำ แต่การแสดงของเขาเป็นธรรมชาติลงตัวกับบทมาก ซึ่งในบทนี้ก็ไม่ได้ต้องการพระเอกหล่อ เพราะตัวเรื่องถูกวางไว้ว่าพระเอกมีปัญหาเรื่องความรัก

หาผู้หญิงแต่งงานด้วยไม่ได้ แม่ก็พยายามหาให้เต็มกำลัง แต่กลับทำให้เขารำคาญแม่มากยิ่งขึ้นไปอีก แถมตัวพระเอกเองก็มีปมเรื่องผิวคล้ำจนต้องทาพวกโลชั่นให้ผิวขาวขึ้นก่อนไปทำงานอีกต่างหาก

คือบทถูกวางไว้แบบนี้เลยว่าพระเอกไม่หล่อ มีปมหาแฟนไม่ได้ เพื่อที่จะได้มาตกหลุมรักสาวสวยที่เป็นนายหญิงผู้ต้องสงสัยในคดีฆาตกรรมที่เกิดขึ้น และก็มีส่วนทำให้เรื่องราวซับซ้อนยิ่งขึ้นไปอีกเมื่อนายหญิงที่ว่านี้ดูเหมือนน่าสงสาร มีแต่คนรังเกียจ แต่เธอกลับมีเสน่ห์มองทะลุทะลวงใจผู้ชายอยู่หมัด ซึ่งตัวพระเอกเองก็พยายามสืบคดีไปปกป้องเธอไป แม้หลักฐานและอะไรหลายๆ อย่างจะพุ่งเป้ามาว่าเธอเป็นฆาตกรค่อนข้างแน่นอน

เรื่องนี้เหมาะสำหรับคนที่ชอบแนวสืบสวนแบบฝรั่ง แต่เปลี่ยนรสชาติมาเป็นอินเดีย ซึ่งก็ถือว่าทำได้ดีกว่าหนัง Original Netflix โดยทั่วไปมาก แม้ไม่ถึงกับดีเลิศ แต่ก็ถือว่าดีพอควรค่าแก่การดูมากๆเลยล่ะ