4 Views
Red Sparrow (2018) เรด สแปร์โรว์ หญิงร้อนพิฆาต
6.6 IMDB Rating

Red Sparrow (2018) เรด สแปร์โรว์ หญิงร้อนพิฆาต

(Red Sparrow)
หมวดหมู่
ผู้กำกับ
นักเขียน Justin Haythe, Jason Matthews
รางวัล 3 wins & 9 nominations
Synopsis
ภาพยนต์ Red Sparrow ( เร้ด สแปร์โรว์ : หญิงร้อนพิฆาต ) ภาพยนตร์สายลับที่สร้างจากนวนิยายของ เจสัน แม็ทธิวส์ เจ้าหน้าที่ซีไอเอจริงๆ ผลงานของสุดยอดผู้กำกับอย่าง ฟรานซิส ลอว์เรนซ์จากผู้กำกับ The Hunger Gameและเขียนบทโดย เจสัน แมตธิวส์นี่เป็นการกลับมาร่วมงานกันอีกครั้งระหว่าง เจนนิเฟอร์ ลอว์เรนซ์ กับ ฟรานซิส หลังจากที่พวกเขาเคยสร้างความโด่งดังระดับโลกให้กับภาพยนตร์เรื่อง The Hunger Game มาแล้



Red Sparrow เรื่องราวของ โดมินิก้า อีโกโรว่า (เจนนิเฟอร์ ลอว์เรนซ์) นักเต้นบัลเลต์สาวสวยชาวรัสเซียที่มีแม่กำลังป่วย แต่เคราะห์ซ้ำกรรมซัดเธอดันประสบอุบัติเหตุระหว่างการแสดงจนขาหักและไม่สามารถทำการแสดงได้อีกต่อไป ชีวิตของเธอกำลังจะตกอับ และนั้นเป็นช่องทางให้อีโกรอฟ (มาทีอัส โชนาร์ท) เจ้าหน้าที่ความมั่นคงของรัสเซีย ผู้เป็นอาแท้ๆของเธอได้ออกอุบายชักชวนให้เธอตกหลุมพรางเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของ“สแปร์โรว์”สายลับนักล่อลวงประจำกองกำลังรักษาความปลอดภัยรัสเซียโดมินิก้าต้องเรียนรู้ถึงอุดมการณ์อันยิ่งใหญ่ การจงรักภักดีต่อประเทศ การเสียสละทุกอย่างแม้กระทั่งร่างกายของตัวเองเพื่อใช้เรือนร่างของเธอและเซ็กส์เป็นอาวุธ การฝึกฝนที่ลดทอนความเป็นมนุษย์ แต่เธอยังคงดิ้นรนเพื่อรักษาความเป็นตัวเองไว้ท่ามกลางระบบอันไม่เป็นธรรมของหน่วยงาน



โดมินิก้า ได้รับภารกิจครั้งใหญ่เพื่อตามหาหนอนบ่อนไส้ในกระทรวงความมั่นคงของรัสเซียและได้หลงเข้าสู่วังวนแห่งความหลงใหลตกหลุมรักกับเจ้าหน้าที่ซีไอเอ นาธานเนล แนช (โจ เอ็ดเกอร์ทอน) หลังจากนั้นเรื่องราวความสนุกและความมันส์ในการวางแผนซ้อนแผนพลิกไปพลิกมาก็ได้เริ่มขึ้นเรื่องนี้ยังร่วมด้วยนักแสดงอีกมากมายอาทิอัส โชนาร์ท, ชาร์ลอต แลมพลิง, แมรี่-หลุยส์ ปาร์กเกอร์ และ เจเรมี่ ไอรอนส์

ส่วนตัวแอบรู้สึกผิดหวังกับภาพยนตร์เรื่องนี้นิดหน่อยเนื่องจากหวังว่าจะได้เห็นฉากแอ็คชั่นแต่เอาเข้าจริงการเล่าเรื่องออกจะเนือยๆ และยืดเยื้อไปสักหน่อย ตัวหนังจะเน้นเดินเรื่องเชิงจิตวิทยาใช้กลวิธีหลอกล่อพลิกไปพลิกมา แบบแผนซ้อนแผนแล้วซ้อนแผนอีกที ทำให้คนดูต้องคิดหนักว่าตกลงแล้วโดมินิกาจะเลือกอยู่ฝั่งไหนกันแน่ แต่ก็มีบางฉากที่คาดเดาได้ในสิ่งที่จะเกิดขึ้นในหนัง ถึงแม้จะผิดหวังกับฉากแอคชันแต่ก็ได้ตื่นตาตื่นใจกับฉากการทรมานที่ออกจะซาดิสม์อยู่พอสมควรและคงเป็นที่ถูกใจของหนุ่มๆ กับฉากวาบหวิวที่แสนจะเปลืองตัวของ “เจนนิเฟอร์ ลอว์เรนซ์”ที่มีให้ได้เห็นตลอดทั้งเรื่องถ้าถามความคุ้มค่าของหนังเรื่องนี้สำหรับใครที่ยังลังเลว่าจะไปดูดีไหมอยากจะบอกสั้นๆ ว่าแค่ได้ดูเนื้อหนังมังสาของ “เจนนิเฟอร์ ลอว์เรนซ์”ก็น่าจะคุ้มแล้วส่วนถ้าใครชอบแนวบู๊แอ็คชั่นก็คงจะผิดหวัง แต่ถ้าชอบหนังซาดิสม์แบบต้องร้องซี๊ด ก็ไปดูเลย